นายสมเกียรติ สุทธิเจริญพานิชย์

ผู้อำนวยการโรงเรียน

- ความเป็นมา
- ข้อมูลพรรณไม้
- ลักษณะพรรณไม้
- ผู้จัดทำ

-ผลงานโรงเรียน

-ผลงานครู

-ผลงานนักเรียน

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 46 จังหวัดชัยนาท   (ปญฺญา ชิวิตํ วิโรเจติ       ชีวิตรุ่งเรืองด้วยปัญญา)

 

ข้อมูลพรรณไม้

    รหัสพรรณไม้ : 7- 17000 - 002 - 016

น้อยหน่า

ชื่อสามัญ : Sugar Apple, Sweetsop

ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Annona squamosa L

จัดอยู่ในวงศ ์กระดังงา (ANNONACEAE)

มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ลาหนัง (ปัตตานี), หน่อเกล๊ะแซ (แม่ฮ่องสอน), มะนอแน่ มะแน่ (ภาคเหนือ), หมักเขียบ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เป็นต้น


    ผลไม้รูปทรงแปลกตาลักษณะคล้ายลูกระเบิดชนิดนี้ แม้จะมีเมล็ดแข็งมันวาวสีดำแทรกอยู่ภายในเนื้อจำนวนมากทำให้ยุ่งยากต่อการกิน แต่ด้วยความเหนียวนุ่มและหอมหวานของเนื้อ ที่หวานจนได้ชื่อว่า “Sugar Apple” น้อยหน่าจึงเป็นผลไม้ที่ชื่นชอบของคนทั่วไป ผลน้อยหน่าเป็นชนิดผลกลุ่ม (Aggregate Fruit) คือในหนึ่งผลที่เราเห็นแท้จริงเป็นผลย่อยหลาย ๆ ผมอัดรวมกันอยู่ ผลไม้ในสกุลเดียวกับน้อยหน่าที่คนไทยคุ้นเคยอีกชนิดคือ น้อยโหน่ง แต่น้อยหน่าจะมีขนาดผลเล็กกว่า ผิวเปลือกขรุขระเป็นร่อง และเนื้อหวาน ส่วนน้อยโหน่งนั้น ผิวเปลือกจะเรียบ และเนื้อมีรสมัน

    เมื่อกินเนื้อน้อยหน่า 100 กรัม จะได้รับคาร์โบไฮเดรตในรูปของน้ำตาลฟรักโทสและกลูโคส สูงถึง 20 กรัม ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างรวดเร็ว แต่ควรจำกัดปริมาณการกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก น้อยหน่ามีวิตามินซีช่วยป้องกันโรคหวัด เสริมภูมิคุ้มกัน และต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ลดการสูญเสียมวลกระดูก ส่วนโพแทสเซียมช่วยการรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายและลดความดันโลหิต

น้อยหน่ามีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งก็ได้แก่ สารประกอบโพลีฟีนอลอย่างแทนนินและคาเทชิน ที่สามารถลดการอักเสบในโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไขข้ออักเสบ ป้องกันมะเร็งและระงับการเจริญเติบโตของเนื้องอกต่าง ๆ ได้ ผลไม้ชนิดอื่น ๆ ที่มีสารประกอบโพลีฟีนอลสูง ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี มะเฟือง ฝรั่ง ละมุด มะม่วงน้ำดอกไม้สุก และลิ้นจี่

    ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านยังใช้น้อยหน่ากำจัดเหา โดยนำใบ 10-12 ใบ หรือเมล็ด 10-12 เมล็ด มาตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำมันมะพร้าว ชโลมผมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้สักหนึ่งชั่วโมง แล้วล้างออกให้หมดจด สารอะโนเนอีน (Anonaine) ในใบและเมล็ดน้อยหน่า ซึ่งเป็นสารอัลคาลอยด์จะออกฤทธิ์ฆ่าเหา เป็นวิธีกำจัดเหาโดยไม่ต้องพึ่งยา แต่ต้องระวังไม่ให้ส่วนผสมนี้เข้าตา เพราะจะทำให้เยื่อบุตาอักเสบ

    น้อยหน่า มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางและใต้ พบได้ทั่วไปในเขตร้อนรวมถึงบ้านเรา โดยจะเพาะปลูกมากในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะของผลน้อยหน่าเนื้อผลจะมีสีขาว ให้รสหวาน มีเมล็ดสีดำ ซึ่งส่วนที่นำมาใช้เป็นยารักษาอาการต่าง ๆได้แก่ ผล ผลดิบ ผลแห้ง เมล็ด และใบ สำหรับบ้านเรานิยมนำใบหรือเมล็ดของน้อยหน่ามาใช้ในการกำจัดเหา เห็บหมัด เป็นต้น

    ประโยชน์ของน้อยหน่า น้อยหน่า ประโยชน์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และดวงตา น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่มีไขมันต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน และรักษาสุขภาพ (แต่สำหรับผู้ป่วยเบาหวานถือเป็นข้อยกเว้น) ช่วยรักษาโรคหอบหืด (วิตามินซี) ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (เส้นใย) น้อยหน่าช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (วิตามินบี3) ช่วยลดความดันโลหิต (โพแทสเซียม) ช่วยบำรุงหัวใจ ให้มีสุขภาพแข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ มีส่วนช่วยรักษาโรคโลหิตจาง ใบน้อยหน่า สรรพคุณช่วยรักษาโรคมะเร็งและเนื้องอก (ใบ) ช่วยรักษาโรคไขข้อและโรคข้ออักเสบ (แมกนีเซียม) ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง (แมกนีเซียม) ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย (แมกนีเซียม) ช่วยส่งเสริมการผลิตพลังงานในร่างกาย (วิตามินบี) ช่วยในการสร้างฮีโมโกลบิน (hemoglobin) (ทองแดง) ช่วยลดความเสี่ยงต่อการที่เด็กทารกพิการแต่กำเนิด (โฟเลต) ช่วยทำให้อาเจียน (ราก) ช่วยบรรเทาอาการปวดเหงือกปวดฟัน (เปลือกต้น) ประโยชน์น้อยหน่า ช่วยในการย่อยอาการ ทำให้ขับถ่ายได้สะดวก (ผล) ใช้เป็นยาระบาย (ราก) แก้อาการท้องร่วง (เปลือกต้น) ใช้เป็นยาสมานลำไส้ (เปลือกต้น) ช่วยแก้รำมะนาด (เปลือกต้น) น้อยหน่า สรรพคุณทางยาช่วยรักษาโรคเริม (ผลแห้ง) สรรพคุณทางยาของน้อยหน่า ใช้แก้พิษงู (ผล,ราก,เปลือกต้น) แก้งูสวัด (ผลแห้ง) ช่วยสมานแผล ใช้เป็นยาผาดสมาน (เปลือกต้น) สรรพคุณน้อยหน่า ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ อักเสบ น้ำร้อนลวก (ผล) น้อยหน่า สรรพคุณใช้แก้ฝีในลำคอ (ผล) ใช้แก้ฝีในหู (ผลแห้ง) เมล็ดน้อยหน่า สรรพคุณช่วยรักษากลาก เกลื้อน ด้วยการใช้เมล็ดหรือใบน้อยหน้าสดนำมาคั้นเอาน้ำแล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็น (ผล,ใบสด,เมล็ด) ประโยชน์ของใบน้อยหน่า ใช้เป็นยารักษาหิด ด้วยการใช้สดหรือเมล็ดสด มาตำให้ละเอียด แล้วเติมน้ำมันพืชลงไปพอแฮะ แล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นวันละ 3 รอบ จนกว่าหิดจะหาย (ใบ,เมล็ด) สรรพคุณ ใบน้อยหน่าช่วยแก้อาการฟกช้ำบวม (ใบ) สรรพคุณของน้อยหน่า ช่วยฆ่าพยาธิ (ผล,ใบ) สรรพคุณของใบน้อยหน่า ช่วยฆ่าพยาธิในเด็ก ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 15 ใบนำมาต้มกับน้ำ 5 ถ้วยจนเหลือ 3 ถ้วยแล้วนำมาดื่มวันละ 3 ครั้ง (ใบ) ใบน้อยหน่ากำจัดเหา ช่วยทำให้ไข่เหาฝ่อ ฆ่าเหา ด้วยการใช้ใบน้อยหน้าสดประมาณ 4 ใบนำมาตำผสมกับเหล้าขาว แล้วเอาน้ำที่ได้มาชโลมให้ทั่วศีรษะ แล้วใช้ผ้าคลุมไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วใช้หวีสางออก (หรือจะใช้แค่น้ำคั้นจากใบอย่างเดียวก็ได้) หรือจะใช้เมล็ดนำมาบดคั้นกับน้ำมะพร้าว (อัตราส่วน 1:2) แล้วกรองเอาแต่น้ำมาชโลมให้ทั่วศีรษะ แล้วใช้ผาโพกไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง และห้ามชโลมยาทิ้งไว้ข้ามคืน ทำเสร็จแล้วให้สะผมทำความสะอาดทุกครั้ง (ใบ,เมล็ด) ประโยชน์ของน้อยหน่า ใช้เป็นยารักษาจี๊ด ด้วยการใช้เมล็ดสดประมาณ 20 เมล็ดนำมาตำให้ละเอียด แล้วใช้สารส้มขนาดเท่าหัวแม่มือใส่ในฝาละมี ตั้งไฟอ่อน ๆ เมื่อสารส้มละลายแล้ว ให้โรยผงของเมล็ดน้อยหน่าลงไปทีละน้อย คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นใช้ไม้ป้ายยาที่กำลังร้อนแต่พอให้ผิวหนังทนได้ แล้วป้ายลงตำแหน่งที่บวม ทำวันละ 2 รอบเช้าเย็น จนกว่าจะหาย (เมล็ด) เมล็ดน้อยหน่ากำจัดเห็บหมัดในสุนัข สูตรเดียวกับกำจัดเหา (ใบ,เมล็ด)

คุณค่าทางโภชนาการของน้อยหน่าต่อ 100 กรัม สรรพคุณของน้อยหน่าพลังงาน 94 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 23.64 กรัม เส้นใย 4.4 กรัม ไขมัน 0.29 กรัม โปรตีน 2.06 กรัม วิตามินบี1 0.11 มิลลิกรัม 10% วิตามินบี2 0.113 มิลลิกรัม 9% วิตามินบี3 0.883 มิลลิกรัม 6% วิตามินบี5 0.226 มิลลิกรัม 5% วิตามินบี6 0.2 มิลลิกรัม 15% วิตามินบี9 14 ไมโครกรัม 4% วิตามินซี 36.3 มิลลิกรัม 44%ใบน้อยหน่ากำจัดเหา ธาตุแคลเซียม 24 มิลลิกรัม 2% ธาตุเหล็ก 0.6 มิลลิกรัม 5% ธาตุแมกนีเซียม 21 มิลลิกรัม 6% ธาตุแมงกานีส 0.42 มิลลิกรัม 20% ธาตุฟอสฟอรัส 32 มิลลิกรัม 5% ธาตุโพแทสเซียม 247 มิลลิกรัม 5% ธาตุโซเดียม 9 มิลลิกรัม 1% ธาตุสังกะสี 0.1 มิลลิกรัม 1% % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

ข้อควรระวัง

    น้ำคั้นจากใบน้อยหน่า ต้องระวังอย่าให้ถูกบริเวณตาหรือเปลือกตา บริเวณรูจมูก ริมฝีปาก เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแสบร้อน ถ้าเข้าตาอาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบได้ ต้องให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที น้ำสกัดจากเมล็ดน้อยหน่า อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ควรระวังอย่าให้เข้าตา เพราะจะทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคือง เยื่อบุตาอักเสบได้ สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรบริโภคน้อยหน่าแต่เล็กน้อยและนาน ๆ ครั้ง เนื่องจากน้อยหน่าเป็นผลไม้ที่มีรสหวานจัดการรับประทานปริมาณมากอาจทำให้อาการของโรคเบาหวานกำเริบขึ้นได้ ประโยชน์ของน้อยหน่า

 

e

เพื่อเพื่อนครู
กฏหมาย,พรบ.,ระเบียบ
การใช้โปรแกรม SPSS
วัดผลจุดคอม
ไทย 2 เลิร์นนิ่ง
ข่าวสาร ศธ.
คุณครูดอทคอม
ครูพันธ์ใหม่ดอทคอม
ป้ายนิเทศออนไลน์
obec e-learning
เรียนทางไกลผ่านดาวเทียม
สารานุกรมไทย
เครือข่ายกาญจนาภิเษก
เรียนรู้กับ nectec
บทเรียนเพื่อเด็กไทย
มุมวิชาการ
: หนังสือพิมพ์ :

 

 

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 46 จังหวัดชัยนาท

83 หมู่ 8 ตำบลธรรมามูล อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท 17000

โทรศัพท์ 056-477-013 โทรสาร 056-477-012 E-Mail sskchainat@gmail.com